เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [16. ติงสตินิบาต] 4. ฉัททันตชาดก (514)
(พระราชาตรัสบอกพรานเหล่านั้นแก่พระราชเทวีว่า)
[101] พระเทวี นายพรานเหล่านี้ล้วนมีความชำนาญ แกล้วกล้า
ชำนาญป่าและรู้จักเนื้อดี ยอมสละชีวิตเมื่อพี่ต้องการ
(พระราชเทวีตรัสกับพรานทั้งหลายว่า)
[102] บุตรนายพรานทั้งหลาย
พวกท่านเท่าที่มาประชุมกัน ณ ที่นี่ ขอจงฟังข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าได้ฝันเห็นพญาช้างเผือก งามีรัศมี 6 ประการ1
ข้าพเจ้าต้องการงาของมัน เมื่อไม่ได้ก็จะไม่ขอมีชีวิตอยู่
(พวกบุตรนายพรานได้กราบทูลว่า)
[103] ขอเดชะพระราชบุตรี
พญาช้างที่งามีรัศมี 6 ประการซึ่งพระนางได้ทรงสุบินเห็น
บิดาของพวกข้าพระองค์ไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้ยิน
ปู่ของพวกข้าพระองค์ก็ไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้ยิน
ขอพระนางโปรดบอกพวกข้าพระองค์มาเถิดว่า
พญาช้างนั้นเป็นเช่นไร
(บุตรนายพรานเหล่านั้นกราบทูลต่อไปว่า)
[104] ทิศใหญ่ 4 ทิศ ทิศน้อย 4 ทิศ
ทิศเบื้องบน และทิศเบื้องล่าง 10 ทิศเหล่านี้
พญาช้างที่งามีรัศมี 6 ประการ
ซึ่งพระนางได้ทรงสุบินเห็น อยู่ทิศไหน
(พระนางสุภัทราราชเทวีทรงเหยียดพระหัตถ์ตรงไปยังป่าหิมพานต์ ตรัสว่า)
[105] จากนี้ตรงไปทิศอุดร ข้ามภูเขาสูงใหญ่ 7 เทือก
ภูเขานั้นสูงใหญ่ ชื่อว่าสุวรรณปัสสคีรี
มีพันธุ์บุปผชาติบานสะพรั่ง มีหมู่กินนรสัญจรไม่ขาดสาย

เชิงอรรถ :
1 รัศมี 6 ประการ คือ (1) นีละ เขียวเหมือนดอกอัญชัน (2) ปีตะ เหลืองเหมือนหรดาลทอง (3) โลหิตะ
แดงเหมือนตะวันอ่อน (4) โอทาตะ ขาวเหมือนแผ่นเงิน (5) มัญเชฏฐะ สีหงสบาท เหมือนดอกเซ่ง
หรือดอกหงอนไก่ (6) ประภัสสร เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :555 }